ต้มยำกุ้งถือเป็นอาหารประจำชาติไทยที่โด่งดังไปทั่วโลก และเป็นอาหารที่คนไทยเลือกสั่งกินเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ ไม่ว่าจะไปกินตามร้านอาหารที่ไหน เมื่อคิดอะไรไม่ออกก็จะสั่งต้มยำกุ้งน้ำข้น หรือ น้ำใส มากินกันเป็นประจำ จุดเด่นของมันคือรสชาติที่บ่งบอกความเป็นไทย คือ เปรี้ยว เค็ม เผ็ด ซึ่งเป็นสามรสชาติหลักของอาหารไทย ไม่เพียงแต่คนไทยเท่านั้นที่ชื่นชอบกินต้มยำกุ้ง เพราะต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวเมืองไทยพอได้ลองก็ติดใจเอากลับไปลองทำกินที่บ้าน จนร้านอาหารหรูๆ ระดับโลกในต่างประเทศก็มีเมนูนี้ใส่อยู่ในรายการด้วย แต่เอาจริงๆ คนไทยกลับไม่รู้ว่าใครเป็นคนคิดเมนูต้มยำกุ้งสุดอร่อยนี้กันแน่
ประวัติศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความอร่อยของเมนู ต้มยำกุ้ง เป็นอะไรที่มีความลึกลับอย่างมาก เพราะแทบไม่มีหลักฐานบ่งบอกเลยว่าใครเป็นคนที่คิดทำขึ้นมา แต่มันเริ่มมีกล่าวถึงอย่างมากในช่วงปี พ.ศ.2570 โดยมีการนำเสนอชื่อเมนู ต้มยำกุ้ง ในหนังสือที่เขียนโดยพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ ท่านเป็นคนที่มีความรู้ในด้านการทำอาหารเป็นอย่างมากในสมัยนั้น เชี่ยวชาญในด้านการดัดแปลงอาหารสูตรต่างๆ ให้มีความแปลกและรสชาติที่หลากหลาย โดยได้รวมรวบเมนูพิเศษที่เคยถวายให้เชื้อพระวงศ์ในหนังสือชื่อ “ของเสวย”
การทำต้มยำกุ้งสมัยก่อน
ในการทำต้มยำกุ้งที่ถวายเป็นเครื่องเสวยนั้น ไม่ได้แตกต่างจากสมัยนี้เท่าไหร่นัก เริ่มด้วยการเอาเปลือกกุ้ง และหัวออก จากนั้นผ่าหลังกุ้งและนำไปล้างให้สะอาด หัวกุ้งที่เอาลอกอกมาเตรียมไว้จะนำไปต้มในหม้อด้วย เพราะในหัวประกอบไปด้วยมันกุ้งทำให้น้ำต้มยำมีรสชาติเข้มข้น จากนั้นเมื่อน้ำได้ที่แล้วก็จะใส่กุ้งแล้วปรุงด้วยเครื่องสามอย่าง ได้แก่ น้ำมะนาว น้ำปลา และพริกขี้หนู ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักสำคัญที่ช่วยให้ต้มยำมีรสชาติที่อร่อยและกลมกล่อม
จะเห็นได้ว่าการทำในสมัยก่อนไมได้มีความยุ่งยากเลย แต่พอมาถึงชาวบ้านก็เริ่มมีการดัดแปลงสูตรให้เกิดความแปลกใหม่ ด้วยการผสมสมุนไพรต่างๆ อย่างเช่น ข่า ตระไคร้ ใบมะกรูด เครื่องเหล่านี้ทำให้ต้มยำมีความหอมหวานชวนรับประทานเป็นอย่างมาก betflix สล็อต ปัจจุบันนี้มันกลายเป็นเครื่องต้มยำที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน และมีขายตามท้องตลาดเป็นมัดๆ นอกจากนี้ยังมีขายเป็นแบบซองสำเร็จรูปอีกด้วย ปกติมันก็ทำไม่ได้ยากอยู่แล้ว พอมีตัวช่วยอำนวยความสะดวกเยอะแยะทำให้เมนูนี้เกิดความแพร่หลายอย่างมาก