เมื่อเราคิดถึงอาหารที่มีความหรูหรา เป็นอาหารระดับสูง มีราคา คงจะไม่พ้นไข่ปลาคาเวียร์ที่สามารถมีราคาแพงได้ถึง 300 เหรียญต่อออนซ์ ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่าทุกคนชอบที่จะกินมัน แต่เมื่อเปิดดูราคาแล้วถึงกับล้มตึงกันไปตาม ๆ กัน ว่าแต่เจ้าคาเวียร์นี้มันคืออะไรละ ทำไมมันถึงได้แพงแบบสุดโต่งแบบนี้ วันนี้เราจะมาหาคำตอบกัน
เริ่มจากประวัติศาสตร์ของมันก่อนเลย เจ้าคาเวียร์นั้นเป็นของที่มีมาตั้งแต่โบราณกาล เป็นอาหารสำหรับพวกเชื้อพระวงค์ คนมีชื่อเสียงอย่างกษัตรย์ในยุคโรม หรือกรีซ การจะหามาทานกันได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ใช่ว่ามีตังแล้วจะได้กิน คาเวียร์เป็นอาหารอันโอชะของพระราชวงศ์ต่าง ๆ มาหลายร้อยปี ก่อนที่จะมีกระแสคนดังที่นำคาเวียร์มาเลี้ยงฉลองกันในงานเลี้ยงสุดหรู อย่างมาริลีนมอนโร ที่เธอบอกว่าชื่นชอบมันอย่างมาก แม้แต่อลิซาเบธ เทย์เลอร์ก็ไม่แพ้กัน เธอไม่เพียงแค่กินไข่ปลาคาเวียร์เท่านั้น แต่เธอรักมันมากจนเธอใส่มันลงในครีมทาผิวของเธอเองเสียเลย
ต่อมาคือสรรพคุณของมันที่เหมือนกับกินไวอากร้าอย่างไรอย่างงั้น คาเวียร์ถูกนำมาใช้เป็นยาสำหรับผู้ที่เสื่อมสมรรภาพทางเพศ ทำให้มันเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการเลือกใช้ไวอากร้า ถึงแม้ว่ามันจะไม่มีผลมากอย่างที่โฆษณาแต่มันก็น่าลิ้มลองให้รับประทานเสมอ ๆ นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์เป็นยากล่อมประสาท ประกอบไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 สูง สามารถใช้เป็นประโยชน์ในการรักษาคนที่มีภาวะซึมเศร้า หรือโรคไบโพล่าได้
สุดท้ายคือสาเหตุที่มันแพงแบบโคตร ๆ ก็คือการผลิตที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ทำให้ราคาพุ่งสูงจนหยุดไม่อยู่ คาเวียร์สามารถผลิตได้ในพื้นที่เฉพาะเท่านั้น หลัก ๆ คือในแถบทะเลแคสเปียน แน่นอนว่าใคร ๆ ก็ชื่นชอบที่จะกินมัน ทำให้ร้านอาหาร โรงแรมห้าดาว สายการบิน ต้องการพวกมันสำหรับให้บริการแขกและลูกค้า เมื่อเทียบกับอัตราการผลิตที่น้อยนิดซึ่งก็เป็นไปตามกฎของกลไกลการตลาด เมื่อสินค้ามีมากราคาก็จะต่ำลง แต่เมื่อใดที่สินค้ามีจำนวนจำกัดราคาจะเพิ่มขึ้นสูง
สาเหตุที่มันผลิตได้ช้าก็เพราะว่ามันต้องเก็บมาจากไข่ของปลาที่มีโตเต็มวัย มีสุขภาพสมบูรณ์ ในปลาบางสายพันธ์อาจต้องใช้เวลากว่าสิบปีกว่าจะโตพอที่ไข่จะนำมาใช้ทำเป็นคารเวียร์ได้ ซึ่งระยะเวลาและเงินที่ลงทุนไปในฟาร์มจะย้อนกลับเข้าไปคำนวณต้นทุนอีกรอบ ทำให้มันมีราคาที่แพง แต่ก็สมเหตุสมผล ทีนี้รู้กันหรือยังว่าทำไมมันถึงแพง สรุปง่าย ๆ ว่ามันหายาก ต้องใช้เวลาในการผลิต และปัจจุบันมีไม่พอขายนั่นเอง
